Autt @ Indonesia
Trip ประจำเดือนมิถุนายน
เพื่อนร่วม trip เดิมจาก trip NZ เมื่อสงกาน ปีที่แล้ว ปีนี้ตกลงปลงใจไปประเทศอินโนนิเซีย
ประเทศที่กล่าวขานกันว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปคือ บาหลี แต่เราไม่ไป พวกเราไป Mt.Bromo กับ Borobudur
4 วัน 3 คืน ข้ามประเทศโดยสายการบิน AA จอง 0 ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
Wed 25 May 2011 Bangkok – Surabaya
นัด Sikawat ไว้ 5 โมงเย็น ยังไม่ทันเลิกงาน แต่ต้องโดดขึ้นรถ taxi มุ่งหน้าไปสนามบินสุวรรณภูมิ นัดเจอพี่หมี พี่เตย
และไปกินข้าวเย็นกันที่นั่น เครื่องออก 3 ทุ่มครึ่ง ยังพอมีเวลาเดินเล่นที่ duty-free ได้ซักพัก แต่ .....
แม่เจ้า !!!!! ... กระผมดันลืมเงินสกุลอินโด จำนวนเกือบ 20000 บาท ไว้ที่กระเป๋าเดินทาง (กระเป๋าหน้าซึ่งไม่ได้ lock ไว้)
load ขึ้นเครื่องไปแล้วซะด้วย ทำงัยดี ๆๆๆๆ ถึงกับขนแขน stand-up เพราะเคยมีประสบกาณ์ตรงจาการเดินทางไปเนปาล
เอาแว่นตากันแดด ไว้กระเป๋าหน้า พอถึงเนปาล หายซะงั้น เอาชุดครีมกันแดดของ eucerin ไว้ทีกระเป๋าหน้าตอนไปสิงคโปร์
หายซะงั้น …. Sikawat จึงแนะนำว่า ลองใช้หน้าตาที่พอไปวัดไปวาได้อ้อนวอนเจ้าหน้าที่สุดสวยหน้า counter AA
ขอกระเป๋าคืน ตอนแรกก้อไม่ได้ แต่ก้อต้องทำตาปริบ ๆ ทำเสียงกระซิก ๆ บอกว่าถ้าหายไปไม่มีเงินกลับมาเมืองไทยแน่ ๆ
พี่แกก้อยอม …. คิดในใจ ดีน่ะเนี่ยที่หน้าตาเราดี อิอิ J ใช้เวลาเกือบ 30 นาที กว่าจะได้กระเป๋าคืนมา
แต่ก้อทำให้สาย เกือบขึ่นเครื่องไม่ทัน
สัปปะโหงกโยกเยกอยู่บนเครื่องนาน 3 ชั่วโมงก่า ๆ ก้อเป็นอันถึงประเทศอินโดนิเซ๊ย welcome to Surabaya
ตอนนี้เวลาเที่ยงคืนกว่า ๆ ที่นี่เวลาเดียวกันกับเมืองไทย ตรวจเอกสารเรียบร้อย เดินมาทางออก มองเห็น
หนุ่มผิวคล้ำนามว่า ???? กำลังชูป้ายชื่อ sikawat from thailand พวกเราถึงกับหูตูบขึ้นชูชัน ได้เจอ staff
จากที่พักมารับเรา ไม่งั้นคืนนี้คงได้นอนตบยุงกันที่สนามบิน
แอบมองเห็นกระเป๋าของพี่หมี พี่เตย แล้วลาก sikawat มาถามว่า sika ๆ พี่ ๆ เค้าจัดกระเป๋าอย่างกะไป NZ อีกรอบ
ดูกระเป๋าพวกเราดิ เหลือใบนิดเดียวเอง sika บอก นั่นดิ …… L
คืนนี้เรานอนกันที่ Da Rifi Hostel (www.darifi.hostel.com) สนนราคาเตียงละ 300 บาท incl BF แต่เป็นอะไรที่ surprise !!
ห้องพักใน web กับของจิง ต่างกันมากมาย ไม่มีแอร์ และที่สำคัญ ไม่มีหน้าต่าง … ช่ายครับ … ถึงกับ เฮ้ย !!!
ยุงเยอะแน่ ๆ เลย และมันก้อเป็นอย่างนั้นจิง ๆ นอนไป ได้ยินเสียงพัดลมติดเพดาน เอียด อาด บวกกับเสียงหวี่ ๆ
ของยุงที่พร้อมใจกันเข้ามาโดยมิได้นัดหมาย
จิง ๆ เป็นพราะ Hostel อยู่ในช่วงปรับปรุงก่อสร้างต่อเติมใหม่ เลยทำให้อะไร ๆ ไม่สะดวกนัก
แต่เจ้าของบ้านเค้าน่ารักมาก แนะนำโน้น นี นั่น ให้เราอย่างเต็มใจ
Thu 26 May 2011 Surabaya – Yogyakarta
หลับตาลงได้แค่ 3 hrs ก่า ๆ ก้อต้องตื่นขึ้นมา อาบน้ำ แต่งตัว กิน BF พร้อมออกเดินทาง
พวกเรานัดคนขับรถไว้ 8 โมงเช้า วันนี้ต้องเดินทางไกลมั๊ก ๆ เพื่อไปให้ถึง Yogyakarta
พวกเราจองรถผ่านข้าวของ Hostel เช่า 4 วัน ราคา 1,740,000 Rp รวมน้ำมันด้วย รถคล้าย TAYOTA AVANZA รูปลักษณ์เดียวกัน
คิด ๆ แล้วเป็นราคาที่ไม่แพงน่ะเพราะรวมน้ำมันด้วย แต่ก้อรู้ทีหลังว่า น้ำมันบ้านเค้าลิตรละ 15 บาท บ้านเราดิ จะแตะ 40 บาทอยู่แล้ว
แต่อาหารทุกมื้อเราต้องจ่ายให้เค้าด้วยน่ะ พี่เค้านอนในรถได้
ใช้ชิวิต อยู่ในรถเกือบ 7 hr เพราะถนนที่นี่เป็นถนนเลนเดียว เกิดอุบิติเหตุที รถติดกันระนาว โชคดีที่ฝนไม่ตก นั่งไป หลับไป
แต่ก้อยังมีเสียงหลอน ๆ ดังเป็นระยะ ๆ นั่นคือเสียง ลั่นชัตเตอร์ ของพี่หมี จนบัดนี้กลับมานั่งทำ review ยังได้ยินติดหูอยู่เลย
ไม่มีไรทำก้อนั่งชวนคนขับรถคุย ที่น่าแปลกใจคือเค้ารู้เรื่องบ้านเมืองเราดีมาก ทั้งเรื่องการเมือง รู้จักทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณและคนปัจจุบัน
รู้เรื่องเสื้อแดง-เสื้อเหลือง ยังรู้อีกว่าเรามีปัญหาชายแดนเขมร รู้เรื่องในหลวง เรียกชื่อเต็มของในหลวงได้อย่างถูกต้องซะด้วย
ยังบอกอีกว่าดูองค์บากครบทุกภาคเลย แต่พวกเราดิ กลับไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับประเทศเค้าเลยด้วยซ้ำ … L
พวกเรา check in กันที่ The Phoenix Hotel Yogyakarta ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรม 4 ดาวของเมือง Yogyakarta แห่งหนึ่ง
ซึ่งจองล่วงหน้าไว้ผ่าน Agoda ราคาห้องละ 2000 ก่า ๆ ต่อคืน คืนนี้ขอนอนแบบราชาบ้างหล่ะ เมื่อคืนยาจกไปแล้ว
วางกระเป๋าเรียบร้อย ล้างหน้า ล้างตา เตรียมตัวกินข้าวเย็น มื้อนี้เราทานกันที่ร้านอาหารตรงข้ามโรงแรมชื่อ Kedi TIGA NYONYA
เป็นร้านอาหารนานาชาติ แต่ก้อมีอาหารพื้นเมืองน่ะ จัดร้านน่านั่งซะด้วย ราคาไม่แพง กินแบบอิ่มมื้อละ 150 บาทต่อคน
จิง ๆ วันนี้ เราต้องเดินเที่ยว Water Palace, Kraton Yogyakarta แต่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการนั่งรถนาน ๆ ทำให้ต้องเลื่อนไปวันรุ่งขึ้น
งั้นคืนนี้เราไปเดินเที่ยวตลาดกลางคืนที่ถนน Malioboro หาซื้อของฝากกลับเมืองไทย
Fri 27 May 2011 Yogyarkarta – Borobudur
เมื่อคืนหลับกันตั้งแต่ 3 ทุ่ม ตื่นกัน 8 โมงเช้า นอนหลับสบายเลย คงเพราะคืนก่อน ๆ นอนไม่เต็มที่ .. จัดแจงอาบน้ำ แต่งตัว
นัดพี่ ๆ เค้าไว้ 9 โมงกินข้าว มื้อเช้าเราทานกันที่ร้านขึ้นชื่อของเมือง Yogyarkarta ชื่อ Ayam Goreng SUHARTI
เมนูเปรี้ยวปากเช้านี้ขอแนะนำ ไก่กรอบ Ayam Goreng อาร่อยมากกกกกก แต่ก่อนไป แวะถ่ายรูปที่รอบ ๆ โรงแรมซักนิดนึง
เดินทางต่อไปยัง Water Palace, Kraton Yogyakarta ….. แต่ กระนั้น … แม่เจ้า !!! อีกรอบ วันนี้วันศุกร์ครับ เจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่า ปิด
เพราะต้องทำละมาดกันทั้งวัน …. อดเลยตู ทำให้รู้ว่า เราทำการบ้านกันไม่ดีพอ ไม่ได้ดูเวลาปิด-เปิด ของแต่ละสถานที่ งั้นพวกเรามุ่งหน้าไป
Prambanan - the largest Hindu temple in SE-Asia ค่าเข้าสำหรับชาวต่างชาติ 13$
อากาศร้อนพอ ๆ กับบ้านเรา วันนี้มีคณะนักเรียนเข้ามาเยี่ยมชมวัดด้วย ทำให้บรรยากาศในวัดคืกคื้นเลยทีเดียว
ใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นเรากลับไป check-out ที่โรงแรม ทานข้าวกลางวันที่ร้านอาหารเดิม แล้วเดินทางต่อไปยัง Borobudur
คืนนี้ (คืนที่ 3) เรานอนกันที่ Manohara Hotel โรงแรมซึ่งติดกับวัด Borobudur ราคาห้องละ 2000 ก่า ๆ ต่อคืน incl BF
ราคานี้รวมค่าตั๋วเช้าชมวัด ก้อถือว่าราคา ok น่ะ จองผ่าน Agoda เหมือนเดิม
ใช้เวลาเดินทางจากจาก Yogyarkarta มาที่โรงแรม ประมาณ 2 ชั่วโมง กว่าจะถึงก้อเย็นแล้ว check-in เสร็จ ก้อหามื้อเย็นกินต่อ
เป็นร้านอาหารพื้นบ้านง่าย ๆ แต่ราคาไม่ง่ายเนี่นดิ สั่งไม่กี่อย่างเกือบเท่าราคาภัตราคาร
สนทนาบนโต๊ะอาหารกันซักพัก นั่งทบทวนแผนที่วันถัดไป เพื่อไม่ให้ผิดพลาดอย่างเช่นที่ผ่านมา ระยะทางที่พวกเราต้องเดินทางวันพรุ่งนี้
ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง ทำให้พวกเราต้องตัดสินใจขึ้นชมพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง ซึ่งต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ 175000 รูเปี้ยะ
ราว ๆ 500 บาทไทย ถ่ายรูปอย่างเร็ว แล้ว check-out ออกจากโรงแรมก่อน 9 โมง ไม่งั้นถึง Mt.Bromo ดึกแน่ ๆ
Sat 28 May 2011 Borobudur - Yogyarkarta - Mt.Bromo
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตั้งแต่สีสีสิบห้า ล้างหน้า แปรงฟัน แล้วรวมตัวกันที่ Front-Desk มีเจ้าหน้าที่พาพวกเราขึ้นไปชมวัด
พวกเราเตรียมหาที่ถ่ายรูป พระอาทิตย์ขึ้น ปรากฏว่าพระอาทิตย์ดันตื่นสาย กว่าจะเห็นแสงแรกปาไปเกือบ 6 โมงเช้า
เดินกลับมาที่พักซักเกือบ 7 โมงเช้า กินมื้อเช้า ถ่ายรูปกันอีกซักพักแล้ว check-out …. เฮ้อ .. ช่างเป็น trip ที่รีบเร่งซะไปหมดเลย
ไม่มีเวลาได้เดินชมรอบที่พักเลยอ่ะ
วันนี้เราต้องเดินทางไกลมาก นั่งรถนานถึง 9 ชั่วโมง นั่งรถไป มองข้างทางไป นั่งเมาท์คนที่ทำงานไป นั่งมอง GPS บน i-phone4
ของพี่หมี ว่าเมื่อไหร่จะถึงซะที ยังดีได้แวะถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ แก้เมื่อย
แวะกินข้าวกันที่ food cort ห้าง SOLO เมือง Sarakarta
หนังท้องตึง หน้าตาหย่อน หัวส่ายไปส่ายมา ตามเส้นทางที่คดเคี้ยว รถติดอีกตามเคย แถมคนขับพาหลงอีก ไปผิดเส้นทาง ดีน่ะที่มี GPS
เสียเวลาไปตั้งเกือบ 3 ชั่งโมง เฮ้อ …. เหนื่อย เบื่อ เซ็ง
เย็นนี้คาดหวังว่าจะนั่งชิว ๆ ดูพระอาทิตย์ตก ณ เทือกเขา Bromo แต่พวกเราถึงที่พักกับเกือบเที่ยงคืน
คืนนี้เรานอนกันที่ Cemara Indah hotel ราคา 350000 Rp/room อากาศหนาวมากกกกก เพราะอยู่บนเขา
นัดแนะให้รถจีป 4DW มารับตีสี่ เพื่อขึ้นไปจุดชมวิว ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น ณ เทือกเขา Bromo
นั่นหมายความว่าเรามีเวลานอนกันไม่ถึง 3 ชั่วโมงด้วยซ้ำ .. เฮ้อ เหนื่อย เบื่อ เซ็ง ยกกำลังสอง
จ่ายค่ารถจิปไปอีกคันละ 250000 Rp และค่าเข้าอุทยานอีกคนละ 25000 Rp เก็บย่อยกับยับเลยน่ะ …. สาดดดดดดดดดดดดด
Sun 29 May 2011 Mt.Bromo – Bangkok
เสียงเจ้าหน้าที่มาเคาะประตูเรียกตั้งแต่ตีสามครึ่ง สะลึมสะลือ หยิบกล้อง เดินออกนอกห้องด้วยอุณหภูมิเกือบติดลบ
นั่งรถจิปขึ้นไปบนเขาอีกครึ่งชั่วโมง นึกว่าจะถึงเลย ต้องเดินเท้าอีกกว่า 30 นาที นักท่องเที่ยวเยอะมาก จับจองที่นั่งเตรียมถ่ายรูปกันใหญ่
โอยยยยย …. หนาว พูดไป ควันออกปากไป
เมื่อแสงแรกแห่งวันใหม่เริ่มปรากฏกายให้เห็น เป็นแสงสีส้มผสมเหลืองอร่าม ไปทั่วทั้งหุบเขา ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามมาก
ได้ยินเสียงนักท่องเที่ยวลั่นชัดเตอร์กันอย่างไม่ขาดสาย ทีมพวกเราก้อใช่ย่อยซะที่ไหน …
แดดออก อุณหภูมิเริ่มปลี่ยนแปลง จากหนาวไปร้อน เสื้อที่เช่ามา 25000Rp ไม่มีค่าจนอยากจะขว้างทิ้ง เพราะกลิ่นเสือเงี้ย …แรงจิง ๆ
ไม่ใส่ก้อไม่ได้อีก ไม่ได้เตรียมไป ตอนขึ้นเขามันหนาวมาก
กลับมาที่พัก กินมื้อเช้า แล้วเตรียมตัวเดินทางกลับ
เดินทางจาก Mt.Bromo สู่สนามบินใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แวะทานมื้อกลางวันที่ร้าน A&W ในปั๊มใกล้สนามบิน
พวกเราจะต้องขึ้นเครื่องเวลา 1515 ดังนั้น เราควรถึงสนามบินก่อน 2 ชั่งโมง ซึ่งเป็นเวลามาตรฐาน แต่ก้อน่ะ
มาถึงก่อนชั่วโมงเดียวก้อพอ สนามบินคนน้อยมาก แถม P’AA เค้าเปิด counter late อีกด้วย พวกเราก้อนั่งรอกันไป
ถึงเวลาขึ้นเครื่อง และ say goodbye Indonedia
กลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ ... เจริญพร ............................... ขอบคุณภาพจากกล่้องพี่หมี และ sikawat ครับ