หลังจากแวะกินมื้อเช้าที่สมุทรสาคร บ้านเกิดเพื่อนเอ็กซ์กันจนอิ่มหน่ำสำราญกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางต่อ ก่อนจะออกจากร้านกาแฟ เพื่อนเอ็กซ์พูดขึ้นมาว่า "กูจะบอกพวกเมิงว่า ทางไปหัวหินมันทำถนนว่ะ กร๊ากกก"  เลยใช้เวลาเดินทางไปนานเป็นพิเศษ เป็นโชคดีของเพื่อนเจที่ไม่ได้ล้างรถมา ฝุ่นตรึม

เที่ยงกว่าๆ ก็มาถึง "บ้านลอนทราย" จนได้ขับเลยจากหัวหินออกมาพอสมควร เหมือนจะอ้อมเขามาด้วย ที่พักเป็นคล้ายๆ บ้านชั้นเดียว สร้างเป็นรูปตัว U โดยจะมี 4 ห้องด้านติดทะเลเป็นห้อง sea view ราคาก็ไม่แพง 1200 บาทต่อคืน ส่วนอีกสี่ห้องที่ไม่ติดทะเลก็คืนละ 1000 บาท ห้อง sea view จะมีประตูสองด้าน ด้านหน้าเอาไว้ออกมาซื้อของที่ร้านมินิมาร์ท (ไม่ต้องกลัวอด) อีกด้านเปิดไปแล้วเจอทะเลเลยแจร่มสุดๆ นี่ยังคิดกันอยู่เลยว่าถ้าไปกันซัก 8 คน นี่เหมา sea view 4 ห้องแล้วหาดจะเป็นของเรา ห้องแต่ละห้องใหญ่มาก สามารถนอนได้ 6-8 คนได้สบาย ที่แรกก็สงสัยว่าทำไมสร้างซะกว้างเลย เหลือบไปเห็นป้ายเค้าเขียนว่ารับจัดกิจกรรมรับน้องด้วย คงจะเอาเตียงออกแล้วปูฟูกเพื่อให้นอนได้หลายๆ คนเวลามีรับน้อง

พอสำรวจที่พักพร้อมเอาสัมภาระเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว ก็หิวซะแล้ว ก็มันบ่ายแล้วนี่นา สั่งข้าวเที่ยวมาโซ้ยกันดีกว่า มาทะเลทั้งทีต้องประเดิมอาหารทะเลมื้อเล็กๆ กันก่อน แล้วค่อยไปซัดชุดใหญ่เย็นนี้ ว่าแล้วก็สั่ง "กระเพรากุ้ง กับ ปลาหมึก" มากินกัน เพื่อนโอเหมือนมีเซ็นส์ สั่งสปาเก็ตตี้มากินอยู่คนเดียว รสชาติอาหารจัดว่าแจร่มเลย แต่ความเผ็ดนี่สิ ไม่รู้ใช้พริกอะไร เผ็ดเชี่ยๆ เผ็ดแบบน้ำตาไหลกันเลย แต่ก็ซัดจนหมด ตูมองอนาคตคืนนี้ไว้แล้ว ได้ขับเครื่องบินทิ้งระเบิดแน่ๆ  รอดไปนะเพื่อนโอ

ที่นี่พระอาทิตย์ขึ้นฝั่งตรงข้ามกับทะเล รอซักสี่โมงเย็นนี่แดดร่มกำลังเล่นน้ำสบาย ว่าแล้วก็พักเก็บแรงไว้เตรียมเล่นน้ำก่อนดีกว่า เพื่อนโอชิงจังหวะได้เปรียบ เปิดแอร์หลับไปก่อนใครเพื่อน ปล่อยให้เพื่อนเจนอนข้างนอน ส่วนตรูเห็นมีรถจักรยานจอดอยู่หน้าห้องเลยถามเค้าไปว่าต้องเช่าไหม เจ้าของที่พักบอกว่าเอาไปขี่เล่นได้เลยฟรี แถมบริการประทับใจ เรียกลูกน้องมาบริการสูบลมให้ จริงๆ ลมมันก็ไม่ได้อ่อนนะ แต่เค้าบอกว่ายางแข็งๆ ขี่สบายกว่า แต่จักรยานที่นี่เบาะแข็งชมัดขี่แล้วเจ็บตูด  ว่าแล้วก็ออกสำรวจรีสอร์ทหรูๆ แถวๆ นี้ซะหน่อย

รีสอร์ทแถวนี้ ส่วนใหญ่กำลังเริ่มก่อสร้าง ไอ้ที่สร้างเสร็จแล้วก็หรูกันซะ สอบถามจากเจ้าของที่พักที่เราไปพักกันได้ความว่า ตอนนี้รัฐออกกฎหมายไม่ให้สร้างสิ่งก่อนสร้างติดทะเลแล้ว ที่สร้างอยู่เดิมก็คือพวกที่ยื่นขออนูญาติไปก่อนที่เค้าจะห้าม ก็เลยสบายไป อนาคตมันต้องอัพราคาอีกแน่ๆ บ้านลอนทรายที่เราพัก เค้าก็กำลังสร้างที่พักแบบเป็นบ้านเป็นหลังๆ มีสระน้ำตรงกลางเหมือนกัน แต่สู้เป็นห้องๆ ที่ติดทะเลที่เราได้ไม่ได้แน่ๆ แม้จะไม่หรูแต่ติดทะเล

จากที่พัก สามารถปั่นจักรยานไปเขากระโหลกได้ แค่ 1.5 กิโลเมตร แต่ตูลองปั่นได้ 500 เมตร คาดว่าฝีที่ตูดอาจกำเริบได้ เพราะเบาะจักรยานมันแข็งได้ใจจริง เลยกลับห้องดีกว่า ไปลากไอ้สองคนนั่นลงไปสำรวจรีสอร์ทหรูๆ ฝั่งติดทะเลดีกว่า ปั่นจักรยานเห็นแต่ด้านหลัง

ชายหาดที่นี่เงียบสงบดีว่ะ ตูชอบ นี่ถ้ามาหลายๆ คนเตะบอลชายหาดเพลินเลย มีแมงกระพรุนมานอนตายซากบ้างประปราย ดูเหมือนป้าจะมีความแค้นกันมาจากคราวก่อน เห็นเอาตีนเขี่ยๆ เล่นทำท่าสะจาย

เดินไปไกลพอสมควร ได้เวลาลงน้ำกะว่า ขาไปเดินบนชายหาดไป ขากลับจะลอยคอกลับ ว่าแล้วก็ลงไปลุยกันสองคนกะเพื่อนเจ ส่วนเพื่อนโอ กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะลงไปไหม  ส่วนป้ารับหน้าที่เก็บภาพ เพราะเป็นวันมาม่า เลยลงน้ำไม่ได้ เพื่อนเจมันฟิตจริง ตูเล่นไม่ไหว มานั่งพักบนหาด ส่งเพื่อนโอลงไปแทนหลังจากนั่งคิดว่าจะลงดีไหม จนเพื่อนโอกลับมาพักแล้วเพื่อนเจมันยังลอยคออยู่กลางทะเล เลย เมิงไม่รู้จักเหนื่อยรึ

มื้อเย็นนี่เป็นอะไรที่เยี่ยมเจงๆ เราสามารถสั่งอาหารให้พ่อครัวที่นี่ทำให้ได้ อีกทั้งยังสามารถสั่งของสด เช่น ปลาหมึกตัวโตๆ กุ้ง มาเผากันเองได้ โดยทางรีสอร์ทจะจัดเตรียมเตาให้เรียบร้อย เป็นเตาของกลุ่มใครกลุ่มมันไม่ปนกัน ตั้งหน้าห้องริมหาด ให้ย่างกันเองเลย สบาย งานนี้สั่งกุ้งมาสองโล โลนึงประมาณ 30 ตัวได้ พวกตูกินกันไม่เกินคนละ 10 ตัว ที่เหลือเพื่อนเจโดนเพื่อนโอ มอมกุ้ง แกะส่งไปให้แดกอย่างเดียว ดูจากหน้าเพื่อนเจตอนหลังก็รู้ว่าตอนนี้ให้เคี้ยวทรายหรือเคี้ยวกุ้งก็รสชาติเดียวกัน

อาหารอร่อยมาก โดยเฉพาะปลากระพงทอดน้ำปลา แต่ความเผ็ดนี่ถ้าไม่คอมเม้นต์แม่ครัว อาจได้อยู่ต่ออีกคืน เพราะท้องระเบิดซะก่อน อ่อที่นี่มีจานดาวเทียมด้วยนะ แต่อย่าหวังว่าจะได้ดูถ่ายทอดสดบอล เพราะแม่นมีแต่รายการแขก ทีวีเนปาลงี้ แต่ก็ยังดี

ขากลับได้แวะดู วังมฤคทายวรรณ(ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกรึเปล่า) แต่เข้าไปข้างในแล้วเค้าห้ามถ่ายรูป เลยไม่ค่อยมีรูปที่วังมาฝาก

งานนี้เบ็ดเสร็จทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร สามมื้อ ค่าน้ำมันรถ ตกคนละประมาณพันเจ็ดร้อยบาท เป็นทริปที่ค่อนข้างประหยัดจริงๆ คิดเป็นค่าอาหารซะก็เกือบครึ่งแล้ว

เจอกันทริปหน้าครับเพื่อนๆ

Flying-V'39

13 มี.ค. 50 11:55น.

{moscomment}