Aut @ อุทยานแห่งชาติดอยหลวงเชียงดาว CNX

Written by Mr.Aut.

trip ปิดท้ายปี 2007 ต้อนรับปีหนู 2008 ณ. ดอยเชียงดาว จ.เชียงใหม่ (หวังว่าปีใหม่คงไม่ได้ไปไหนน่ะ จะได้ปิด trip ปีนี้ซะที)
ออกเดินทางคืนวันพฤหัสที่ 21 ธันวาคม เวลา 21.00 กลับถึงกรุงเทพตี 2 ของเช้าวันอังคาร ใช้เวลา 4 วันเต็ม ๆ

ข้อมูลจากนักเดินทาง.คอม Cool
ดอยหลวงเชียงดาว ภูเขาหินปูน ที่สูงเด่นกว่า 2175 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งนับตามความสูงแล้ว คงเป็นที่ 3 ของประเทศไทย
แต่ความสวยงามนั้น ใครๆ ก็ ยกย่องให้เป็นอันดับ 1 เสมอ ด้วยสัณฐาณ ที่เป็นหน้าผาสูงชัน ทุกด้าน ดั่งกำแพงกั้นขาดจากโลกภายนอก
และยอดเขาทรงแปลกตา และ สมบูรณ์ ด้วยพืชพรรณ แบบกึ่งอัลไพน์ ซึ่งเป็นสังคมพืชเฉพาะถิ่น ที่หาที่ไหนในโลกไม่ได้อีกแล้ว

เป็น Trip เดินป่า เดินทางไปกับกลุ่ม Staff ของ นักเดินทาง (http://www.nakderntang.com) รู้จักกันตอนไปผ้าห่มปก อ่างขาง
เป็น Trip ที่เรียกว่า "หารเฉลี่ย" ไม่ได้ซื้อ Tour ถูกกว่าประมาณ 1000 บาท (ราคา Tour ประมาณ 4000) แต่เราเสียแต่ 3000 บาท
1000 บาทที่ต่างกันเนี่ยเป็นค่า Service เช่น เราต้องแบกของใช้ส่วนต้วขึ้นไปเอง แบกน้ำ ทำอาหารเอง กาง/เก็บเต๊นท์เอง
ลูกหาบจะแบกของใช้ส่วนกลางอย่างเดียว แต่ถ้าซื้อ Tour เราเดินตัวเปล่า ....... แล้วจะไปมันส์อะไร เน๊อะ!!

ออกเดินทางโดยรถตู้ 2 คัน ไปกันทั้งหมด 23 คน รวมตัวกันที่ BigC สะพานควาย ออกเดินทาง 21.00น. กินยาแก้เมารถ แล้วหลับ
ตลอดทาง ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 6 โมงเช้า แวะซื้ออาหารสด อาหารแห้ง สำหรับ 5 มื้อบนดอยที่ทำกันเอง ขอบอกว่าอาหาร
ที่กินบนดอยเนี่ยอลังหารงานสร้าง กินดีกว่าอยู่บ้านซะอีก สุกี้ ยำปลากระป๋อง ไข่เจียวหมูสับ ต้มยำมาม่า หมุย่าง หมูทอดกระเทียม
ขนมปังทาแยม กาแฟ/โอวันติน ข้าวสวย ข้าวเหนียว ปนกันไป ข้าวต้มรอบดึก ขนมคบเคี้ยวอีกเยอะ ๆ แบบว่าอิ่มแล้วอิ่มอีก

พอถึงที่ทำการอุทยานแยกของออกมา เอาเฉพาะที่จำเป็น ผู้ชายถือน้ำ 3 ขวด ผู้หญิง 2 ขวด (ขวดใหญ่ 1.5 ลิตร) หนักมาก ไม่ต้อง
แปรงฟัน ใช้น้ำยาบ้วนปากเอา ไม่มีน้ำอาบ อาบตอนขากลับรอบเดียว เสื้อผ้าเอาไปแค่ชุดนอน+ถุงนอน+เสื้อกันหนาว นอกนั้นตอน
เดินป่าให้ใส่ซ้ำกัน พยายามทำกระเป๋าให้เอาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กระเป๋าอรรถหนักอยู่ที่ 10 กิโลกรับ แล้วออกเดินเท่าต่อเพื่อไป
นอนที่ตีนดอย เริ่มเดิน 11.00น.

 

ใช้เวลาเดินประมาณ 6 ชั่วโมงในการเดินขึ้นเขา (ขากลับใช้แค่ 1.30 นาทีเพราะเดินลงเขา) ผู้ชายต้องไปให้ถึงก่อนเพราะต้องไปจัดการ
เรื่องที่นอน กางเต็นท์ ที่ทำอาหาร อรรถเดินไปถึงประมาณ 17.00น. ขึ้นเป็นคนที่ 3 จาก 23 คน แสดงว่าเรายังอึดอยู่น่ะเนี่ย ....
ผู้หญิงคนสุดท้ายถึงตอน 2 ทุ่ม คงเหนื่อยน่าดู ...................

พักกินข้าวเที่ยวที่ดงไฝ่ เป็นข้าวเหนี่ยวหมูทอดยอดพลัง + เค้ก 1 ชิ้น + ลูกอม + สาลี่ 1 ลูก จัดการเสร็จแล้วเดินทางต่อ (ขยะห้ามทิ้งต้อง
เก็บไว้ที่ตัวตลอด ให้ทิ้งตอนลงจากเขาแล้ว) รักที่จะเดินป๋า ต้องรักษ์ป่าด้วย

นี่คือ ยอดดอยเชียงดาว ที่เราต้องพิชิตให้ได้

ลืมทาครีมกันแดดขาไป แดดร้อนโครต ๆ ดำเลยตู สีผิวคลำขึ้น 10% ต้องมานั่งบำรุงกันอีกยาวเลย
นี่ชุดเดินป่า หรือชุดเดินแบบในป่าเนี่ย ...... ไอ้เราก้อไม่รู้ว่ามันต้องเดินขนาดนี้ เตรียมชุดมาแบบนี้นี่หว่า ......................

จุดการเต๊นท์ตีนดอย มีเจ้าหน้าที่ของอุทยานคอยดูแลความเรียบร้อย เรามีทั้งหมด 5 เต๊นท์สำหรับคุณผู้หญิงนอน ส่วยผู้ชายนอน
"ปลาทู" หมายถึงกางแค่ฟลายชิตกันน้ำค้าง ส่วนด้านล่างปูผ้ากันเปลื้อน ด้านข้างปล่อยว่างรับลม คิดดูแล้วกันว่าจะหนาวไหม .........
อุณหภูมิประมาณ 10 องศาสำหรับกลางคืน ตกดึกประมาณ 8 องศา เราเอาถุงนอนไปแค่ถุงเดียวซึ่งรับได้ที่ 12 องศา ทำให้หนาวมาก
นอนขดอยู่ อยากให้เช้าไว ๆ (รู้งี้แบกไป 2 ถุงก้อดี จะได้อุ่น ๆ)

ตอนเช้าออกเดินทางจากตีนดอยเพื่อขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ "ดอยกิ่วลมเหนือ-กิ่วลมใต้" ตื่นตี 4.30 แล้วเดินขึ้นเขาต่อถึงยอดประมาณ
6 โมงเช้า อ้อ ... ที่นี่ห้องน้ำแบบง่าย ๆ ผังกลบ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ

ทะเลหมอกสวยมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากให้พวกเราเหล่าเพื่อน BU ไปจิงๆ เลย เสียดายเราแบกขาตั้งกล้องไปไม่ไหว ภาพออกมาไม่สวย
เพราะต้องอัด ISO เยอะ ๆ (ภาพที่เห็นเป็นจุดเกิดจากฝุ่นหน้าเลนส์ เพราะลมแรงมาก ๆ)

ต่อไปเป็นภาพเหล่าพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ไปด้วยกัน เป็น Staff กันหมดเลย มีเราเป็นเพื่อน Staff เลยขอไปด้วย
นั่งจิบกาแฟ ขนมปังทาแยม ต้อนรับแสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น โอ้ย ................. หร่อยแรง..

ทุกคนฝีมือถ่ายรูปอย่างโปร เลนส์เงี้ย มืออาชีพใช้ทั้งนั้น ดูภาพเพิ่มเติมใน Webboard ได้นี่
http://www.nakderntang.com/webboard/show.php?catid=1&No=1005 

ตอนสาย ๆ กลับมากินข้าวเช้า + กลางวัน ตอนบ่าย ๆ หลับเอาแรงต่อตอนเย็นขึ้นไปถ่ายรูปต่อบนดอยเชียงดาว

ตอนเย็นกลับมาหลังพระอาทิตย์ตก กลายเป็นค่ำไปเลย มืดเร็วมาก ไม่มีไฟฟ้า เราอยู่กันด้วยแสงจันทร์และไฟฉายนั่งล้อมวงเล่าเรื่องสนุกๆ
กินมาม่าท้าลมหนาว + เหล้าเข้าปากระบายความเย็น

นอนกันตั้งแต่ 4 ทุ่มตื่นมาขึ้นไปบนดอยเชียงดาวอีกครั้งตอนตี 5.30 เพื่อถ่ายรูปเก็บบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น เห็นเส้นขอบฟ้ายาวเกิน
สายตาจะรับได้เพราะเป็นดอยที่มอบรอบ 360' เป็นทะเลหมอกและภูเขาเตี้ยๆ เต็มไปหมด คนน้อย ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เนื่องจากไม่ไช่
ช่วงเทศกาล มีแต่กลุ่มพวกเรา ส่วนตัวดีแหะ ...

ทะเลหมอกอีกแล้ว คุ้มมากที่เดินทางมาที่นี่ เสียดายไม่มีเลนส์ wide จะได้เก็บภาพมาฝากเยอะ ๆ สงสัยต้องซื้อซะแล้ว เพราะต้องขึ้นอีก
หลายดอย หลายภูเลย คงต้องตามเก็บให้หมด

รวมตัวถ่ายรูปกันเร็ว เอาหน้ารับแสงแดดอ่อน ๆ อุ่น ๆ

คนนี้คือน้องเอ็ม น้องที่เคยเป็น Staff ที่ไปดอยอ่างขาง ผ้าห่มปก Trip ที่แล้ว ชวนเรามา ขอบคุณมากครับ ที่ยื่นสิ่งดี ๆ มาให้

อรรถด้านข้าง หล่อน่ะเนี่ย เรา .........................

เดินทางลงจากตีนดอยเวลาประมาณ 11.00 ถึงประมาณ 13.00 อาบน้ำ อาบท่า ขัดเนื้อขัดตัว หลังจากไม่ได้อาบมา 2 วันเต็ม ๆ แปรงฟัน
ซะเลือดไหลเลยกดแรงไปหน่อย กลัวไม่สะอาด ตอนนี้เวลา 15.00 เตรียมตัวขึ้นดอยแม่ตะมาน ไม่ไกลกันนัก เดินทางด้วยรถ 4WD
จากถนนหลัก 21 กิโล กลายเป็นถนนลูกลัง ฝุ่นแดงเต็มหัว ถนนแย่มาก หลุมเต็มไปหมด ขอบอก ..... บ่นมาตลอดทาง บ่นแล้ว บ่นอีก
"รู้งี้ ตูไม่ขึ้นมาดีก่า" กระแทกจนตูดชาเลย แต่ความคิดได้เปลี่ยนไป โดยชิ้นเชิง หลังจากถึงยอดดอยแล้ว (เป็น Camp Car
รถเข้าถึงไม่ต้องเดินเท้าต่อ) จากรูปน่าจะบอกได้ว่า มันสวยมาก คุ้มแล้วที่มา ถ้าไม่มาเสียดายตาย ท้องฟ้าสีสวยอย่างบอกไม่ถูก
สิ่งที่คิดได้ตอนนั้นมีอย่างเดียวคือ "อยากให้พ่อกับแม่มาอยู่ตรงนี้ด้วยจัง ท่านคงมีความสุขมาก เหมือนที่เรารู้สึกตอนนี้"

เราไปถึงเย็นแล้ว รีบกางเต๊นท์ เตรียมตัวทำอาหารเย็น แล้วเล่นกีตาร์รับสายลมเย็น ๆ มองออกไปจากเต้นท์เห็นเส้นขอบฟ้ายาวเต็มตา
คิดดูแล้วกัน ความสุขเกิดขึ้นได้ ด้วยเงินไม่มีบาทแต่มันเต็มเปรี่ยมไปด้วยความทรงจำดี ๆ กับมิตรภาพดี ๆ ที่เกิดขึ้นใหม่

ตื่นเช้ามามองเห็นดอบเชียงดาว ภูเขาที่เราขึ้นไปพร้อมพูดกับตัวเองว่า "ตูขึ้นไปได้งัยฟ่ะ"

บนดอยแม่ตะมาน เป็นศูนย์เกษตรกรรมของมหาลัยเชียงใหม่ รอบทิศจะเต็มไปด้วยดอกไม้สวย ๆ สีสด ๆ บานรับแสงแดดตอนเช้า
อ้อ ... ที่นี่มีห้องพักด้วย ถาพด้านบน ราคา 1000 บาทมั้ง มีน้ำ มีไฟฟ้าพร้อม (ถึง 22.00) แต่กางเต๊นท์นอน ดีแล้ว ได้บรรยากาศสุด ๆ

ไม่ไช่ภาพงานวิวาห์ แต่เป็นการสร้างภาพ พี่ๆ เพื่อน ๆ Staff นิสัยดีกันทุกคน เราเลยขอถ่ายรูปสร้างภาพว่ารักกัน .... 5 5 5

ขอลงจากดอยมองเห็นต้นสากูระเมืองไทยบานสีชมพู(ต้นนางพญาเสือโคร่ง) เกือบตลอดเส้นทาง สวยไปอีกแบบ แวะถ่ายรุปอีกครั้งแล้ว
เดินทางต่อ

คุณอ้อม Staff สุดสวยของอรรถ

พี่ยุ่ย ที่อรรถเกือบจะต้องเสียตัวให้

แอบถ่ายลูกของเจ้าหน้าที่บนดอย

ลงจากดอยแม่ตะมาน ไปต่อที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา เพื่อกินข้าวเที่ยง และอาบน้ำ (ข้างบนดอย อาบไม่ไหว น้ำอย่างกะน้ำแข็ง)

กินข้าวเสร็จ แวะตลาดซื้อของฝากที่ตัวเมืองเชียงใหม่ แวะกินไอ้ติมรอบเย็น ซื้อสตอร์เบอรี่ เดินทางออกจากตัวเมืองประมาณ 19.00
ถึงกทม 2.00 ของวันอังคาร ได้นอน 3 ชั่วโมงแล้วไปทำงานต่อ ................ อึดโครต
แค่นี้ก่อนครับ กำลังรอ Up รูปของกล้องคนอื่นอยู่

{moscomment}


blog comments powered by Disqus

Crazypanda.net