Aut @ Aumpawa II

Written by Mr.Aut.

Trip แถมประจำเดือนมิถุนายน'09 รวบรวมเพื่อน ๆ และพี่ ๆ จากที่ทำงาน 10 คน เดินทางสู่เมืองสมุทรสงคราม
2 วัน 1 คืน ค่าใช้จ่าย 1400 บาท อ่านต่อ ....

 

อารมณ์อยากเที่ยว ที่มีเวลาเป็นข้อจำกัด ใกล้ๆ ง่ายๆ กินอิ่ม..นอนอุ่น..การพนัน..และนารี(มีแต่ป้า ๆ)
กิจกรรมแปลกๆ เชิงอนุรักษ์ ศึกษา
ข้อมูลก่อนไป เลยเลือกที่นี่แหละ "บ้านไม้ชายเลน รีสอร์ท” ติดฝั่งอ่าวไทย

ออกเดินทางจากหน้า Office 08.00 ถึงรีสอร์ทประมาณ 09.30 check-in แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมลงเรือ

บ้านพักเรือนไม้ (ก้องั้น ๆ) อุปกรณ์อำนวยความสะดวก..ก็พื้นๆ ทีวี ตู้เย็น น้ำอุ่น แต่ละหลังต้องเดินไปตามสะพานไม้แบบนี้แหละ
เพราะเรือนพักอยู่กลางน้ำ
ทุกหลังจะมีระเบียงเล็กๆ ไว้ให้นั่งกินลมชมวิว..

แพคเกจ 1100 บาท รวมที่พัก อาหาร 3 มื้อ และกิจกรรม

กิจกรรมแรก เมื่อเรือวิ่งผ่านคูน้ำเล็กๆ ก็มีฝูงลิงแสม ออกมาคอย ต้อนรับ ทางรีสอร์ท เตรียมกล้วยไว้ให้

สมัยก่อนพื้นที่ป่าชายเลนบ้านคลองโคนถูกบุกรุกทำลายจนหมดสภาพพื้นที่ป่าชายเลน เป็นพระมหากรุณาธิคุณ
จากสมเด็จพระเทพฯที่ทรงเห็น ความสำคัญของการปลูกป่าชายเลนที่นี่ จึงได้เสด็จมาทรงปลูกป่าชายเลนที่นี่ด้วย
พระองค์เอง จนปัจจุบันพื้นที่ป่าชายเลนของบ้านคลองโคนกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

ทริปเราก็ได้มีส่วนร่วมในการทำประโยชน์ให้กับสังคม เหมือนกัน ได้เวลาปลูกต้นกล้า ซึ่งทางรีสอร์ทก็เตรียมให้  
ไอ้ตอนปลูกนี่สิ ทุลักทุเลน่าดู ก็เพราะเราต้องลงจากเรือ เหยียบเลนขึ้นไปปลูกบนเนินเตี้ย ๆ แต่เลนมันยุบตัว  
เล่นเอาจมไปถึงหัวเข่า .. แหม ๆ ก้อเจ๊น้ำหนักปาไปเกือบ 100 จะไม่ไห้ยุบตัวได้งัย

ตอนขึ้นเรือ ต้องใช้แผ่นๆคล้าย สก็อตไบท์ ขัดโคนที่ฝังติด ขนหน้าแข้ง ออก เหมือนเพิ่งผ่านการทำสปา ด้วยโคนจากธรรมชาติ มาเลย

เรือวิ่งลัดเลาะออกสู่ทะเล ผ่านกระเตง  ซึ่งก็คือ กระท่อมของชาวประมงที่ปลูกกลางทะเล เพื่อใช้เฝ้า ฟาร์มหอยแครง
เมื่อทะเลมีคลื่นและลมแรง กระท่อมที่ปลูกไว้ในลักษณะชั่วคราวก็จะมีีอาการโยกเยกชาวทะเลเรียกอาการดังกล่าวว่ากระเตง
จึงเป็นที่มาของ กระเตงกลางทะเล

เรือลัดเลาะผ่าน ฟาร์มหอย สู่พื้นเลน อันกว้างใหญ่  ได้เวลาเล่นกระดานเลนกันแล้ว เจ้ากระดานนี่ก้อเป็นกระดาน
ไม้ธรรมดาๆ นี่ล่ะ  เอาไว้มาไถๆ แรกๆคนขับเรือช่วยเข็นให้ยิ่งมันส์ๆๆๆ   แต่พอถีบเอง นี่ดิ รู้ซึ่งถึงความยากลำบากใน
การที่จะเก็บหอยแครงได้ แต่ละตัวเลย

เล่นกันซักพัก ก็ได้เวลาไปพักผ่อนหม่ำข้าวกลางวัน  บนกระเตง  บนนั้นก็มีตุ่มน้ำ ห้องน้ำ สำหรับไว้ล้างหน้าล้างตัว

อาหารที่นี่ก็อร่อยนะ เน้นปลา และอาหารทะเล เป็นหลัก..เข้าท่าตรงนี้แหละ น้ำพริกกะปิอร่อย มั๊กๆ  
แต่กินหมดก่อนจะถ่ายรูปทัน..เป็นยังงี้อีกแล้วครับท่าน

บ่าย 3 กลับถึงที่พัก สมาชิกร่วมทริป ยังเหลือพลังงานอีกเยอะ เลยเผาผลาญ ต่อด้วยการพายเรือคะยัก หน้าบ้านพัก
กลางคืนขับรถไปชมหิ่งห้อย ที่ทำตัวกระพริบไฟ ได้เหมือนกับไฟต้นคริสมาสต์ ซะขนาดนั้น

เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 ด้วยการใส่บาตร และถ่ายรูปที่ระลึก เก็บบรรยากาศ ที่พัก ก่อนเดินทาง ไปแสวงบุญใหญ่

เริ่มต้นกันด้วยวัดศรัธาธรรม วัดนี้จำได้แม่น เพราะท่านมักกะทายก เน้น มากๆ กับการทำบุญที่นี่

ไหว้พระที่วัดเพชรสมุทร หรือ วัดหลวงพ่อบ้านแหลม วัดที่เค้าบอกว่าใครมาเที่ยวสมุทรสงคราม แล้วไม่ได้มาแวะ
นมัสการหลวงพ่อ ก็เหมือนมาไม่ถึง

หลังจากนั้นไปเดินเล่นตลาดรถไฟ ของสดถูกมากๆ ตลาดนี้เวลารถไฟไม่มาแม่ค้าก็ขายของสองข้างทางรถไฟ
ส่วนคนซื้อก็เดินบนรางรถไฟเลย อยากรอดูตอนรถไฟมาเหมือนกัน แม่ค้าเค้าจะหุบร่ม กันอย่างไร แต่โชคไม่ดี
วันนี้รถไฟ
delay เลยรอม่ายไหว ร้อนๆๆๆ

ได้เวลามื้อเที่ยงพอดี เราจอดรถ แถวอุทยาน ร2 แล้วเดินลัดเลาะ มายังแหล่งอาหาร ที่ตลาดน้ำอัมพวา
ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหาร และเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ

โบสถ์แม่พระบังเกิด (ใกล้ๆอัมพวา) สร้างเมื่อ 111 ปีที่แล้ว สถาปัตยกรรมแบบ Gothics น่าทึ่ง!
ไฮไลท์ สำคัญอยู่ที่กระจกสี ที่เป็นรูปของประวัติพระเยซูและรูปของนักบุญสำคัญต่างๆ ในคริสตศาสนา

ต่อกันอีกวัดที่ 3 วัดบางแคน้อย ที่วัดนี่มีโบสถ์ไม้สักแกะสลักสวยงามมาก วัดที่ 4 วัดบางกุ้ง เป็นวัดที่อยู่ในรายชื่อ
Unseen Thailand ซึ่งมีโบสถ์ปรกโพธิ์ โบสถ์เก่าแก่ที่ยังคงทรงตัวอยู่ได้
ด้วยต้นไม้ใหญ่ที่เข้ามาช่วยพยุงโบสถ์
ที่วัดนี้ยังมีรูปปั้นแสดงท่าทางต่างๆของการชกมวยด้วย

{moscomment}


blog comments powered by Disqus

Crazypanda.net