Christchurch - Greymouth - Franz Josef

Date 2 : วันที่ 5 เมษายน

กำหนดเวลาตอนเช้า พวกเราตั้งรหัส 7-8-9 นั่นหมายความว่าตื่น 7 กิน 8 ออก 9 แต่ได้ออกจิง ๆ เกือบ 10 โมงเพราะทำอาหารเช้าแบบเริดหรูไปหน่อย เลยใช้เวลาไปเยอะเลย อีกทั้งต้องการประหยัด จึงทำแซนวิสเตรียมไว้กินมื้อเที่ยง ซื้อข้างนอกชิ้นละ 6$NZ ทำกินกันเอง อิ่มกว่า ประหยัดกว่า Option เยอะกว่า ดีกว่าตั้งเยอะ ที่สำคัญอร่อยกว่าด้วย 

** ห้องพักที่ NZ โดยปกติ Check-in หลัง 14.00 และ Check-out ก่อน 10.00 Check-out late ได้นิดหน่อย

แผนการเดินทางวันนี้ จากเมือง CHRISTCHURCH ไปเมือง Greymouth ระยะทางประมาณ 250 km. ใช้เวลา 5 hrs โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 73 หรือที่เรียกกันว่า Arthur’s Pass Road

 

Season ที่พวกเราไปอยู่ในช่วงใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี ระหว่างการเดินทาง พวกเราตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นต้นไม้เป็นทิวยาวเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีส้มบ้าง เหลืองบ้าง แดงบ้าง สลับกันไปกับเทือกเขาที่ยาวสุดสายตา การขับรถเที่ยวครั้งนี้ จึงได้ยินแต่คำว่า “แม่ง สุดยอดเลยว่ะ” เสมือนเป็นสิ่งอัศจรรย์ในชิวิต เพราะคงพบเห็นได้ยากมากในเมืองไทย แต่วันหลัง ๆ ความตื่นเต้นคงลดต่ำลงไปตามวันเวลา เพราะมันสวยเหมือนกันไปหมดจนชินสายตา และนี่คงเป็นเหตุผลแค่ 250 km ทำไมใช้เวลาเดินทางเยอะจัง ก้อเพราะว่าแวะถ่ายรูปได้ตลอดทางเลย

 

 

ขับรถผ่านมาได้เกือบครึ่งทางแวะทานอาหารว่างที่ร้าน Homemade Pot Pie ที่เมือง Springfield ตามคำแนะนำของพี่เล่มเขียว (เที่ยวไม่ง้อทัวร์) แต่ขนมเค้กป้าแกเข้มข้นได้ใจมาก อร่อยสมคำล่ำลือ แถมคุณป้าให้คำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่เรากำลังจะไปด้วย โอ้ !! First Impression.  

 

ขับรถไปอีกสักพัก แวะชมภูเขา Castle Hill หรืออีกชื่อนึงคือ Kura Tawhiti ทุ่งก้อนหินปูนขนาดใหญ่

 

** ปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองและไม่มีห้องน้ำ แต่สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จะมีห้องน้ำสาธารณะ สะอาดมากด้วย มีป้ายบอกชัดเจน

** เติมน้ำมัน ต้องจัดการเองหมด เติมเสร็จแค่เดินไปบอกหมายเลขเครื่องเติมน้ำมันที่เรากดที่ mini-market ในปั๊มเท่านั้นเอง จ่ายเงินสดหรือ Credit Card ได้ทั้งนั้น 

ขับรถต่อไปอีก แวะถ่ายรูปเล่น ๆ กันที่ลุ่มน้ำ Lake Pearson

 

แวะซื้อ แซนวิส กินเป็นมื้อเที่ยงแถว ๆ ข้างทาง อันนิดเดียว 5$NZ แถมแข็งด้วย มื้อหน้าทำกินกันเองดีกว่า

 

ถึงเมือง Greymouth ประมาณ 4 โมงเย็น คืนนี้เรานอนกันที่ BBH – Global Village Travelers Lodge คืนละ 60$NZ/r/n

หลังจาก Check-in เรียบร้อยแล้ว เดินทางต่อไปที่ Pancake Rocks ในอุทยานแห่งชาติ Paparoa National Park ซึ่งมีรูน้ำขนาดใหญ่พุ่งสูงมากซึ่งเกิดจากแรงกระแทกของน้ำทะเล เรียกว่า Blowholes ไม่มีในเมืองไทยแน่นอน

 

 

6 โมงก่า ๆ กลับมา shopping ที่ supermarket ต่อ รายการอาหารคืนนี้คือ ผัดผักรวมมิคร ไข่เจียว พะแนงหมู

หลังจากผ่านการทำครัวไปบ้างแล้ว แต่ละคนเริ่มเป็นงานกันมากขึ้น อรรถ สับ-หั่น-ซอย พี่เตย ตั้งน้ำ-ตั้งหม้อ-ตั้งไฟ พี่หมี ล้างจาน-ชาม-ช้อน โดยมีคุณชายไต๋คอยเป็นลูกมือช่วยทุกคนอยู่ใกล้ ๆ เพราะ he ไม่ค่อยถนัดเรื่องครัว 

** ที่ NZ ร้านต่าง ๆ จะปิดประมาณ 3 ทุ่ม ต้องวางแผนให้ดี เผื่อเวลาซื้อของด้วย ทางที่ดีให้ซื้อเผื่ออาหารเช้าและกลางวันของวันถัดไปด้วย

** อุปกรณ์ครัว หลังจากใช้เสร็จแล้ว ต้องล้างทันทีเพื่อให้คนอื่นใช้ต่อ ป้ายเค้าก้อเขียนไว้อย่างชัดเจน แต่ก้อยังมีคนไทยบางกลุ่มไม่ยอมล้าง รอรวมล้างหลังจากทานเสร็จทีเดียว เฮ้อ…. นี่แหละน้า คนไทย .. ถ้าเป็นเมืองไทยทำแบบนี้ พี่หมี แก วีนแตกไปแล้ว ดีน่ะ ช่วงกันห้ามไว้ก่อน

ทุกคืนจะมีกิจกรรมยามดึก นั่นก้อคือ นั่งดื่มโอวันตินร้อนแก้หนาวในห้องนอน แต่ต้องคุยเบา ๆ ห้องข้าง ๆ ได้ยินเพราะผนังมันบางมาก เหมือนจะเป็นแค่แผ่นปูนบาง ๆ เท่านั้นเอง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่นี่จะรักสงบมาก คงต้องการมาพักผ่อนอย่างเต็มที ก้อเห็นจะมีพวกพี่ไทยเรานี่แหละที่เสียงดัง ทำงัยได้ คงยังไม่คุ้นชินกับเวลาที่เร็วขึ้นมั้ง

** ครัวทุกที่ ตอนเช้าจะปิด 10.30 ตอนกลางคืนก้อ 22.30 ต้องทำอาหารให้เสร็จก่อนเวลานี้ ส่วนมื้อกลางวันสามารถใช้ได้แต่ห้ามทำอาหารหนัก ๆ ที่มีกลิ่นแรง ๆ

Date 3 : วันที่ 6 เมษายน

รหัสตอนเช้า ยังคงเป็น 7 8 9 ก่า ๆ มื้อเช้าวันนี้เป็นไข่ (อีกแล้ว) ขนมปัง ไส้กรอก

** สำหรับอาหาร เครื่องดื่ม ที่ต้องการใส่ไว้ในตู้เย็นรวม ต้องเขียนชื่อและวันเข้าพักใน Label ที่ทางที่พักจัดเตรียมไว้ให้แล้วแปะไว้ที่อาหาร เพื่อจะได้รู้ว่าอันไหนเป็นของเรา ทางที่ดีซื้อถุงเก็บอาหารจาก supermarket ไว้ไม่แพงมาก ไว้ใส่อาหารทุกอย่างในถุงนั้นจะได้เป็นระเบียบ

** เตาแก๊สที่นี่ ไฟอาจจะไม่แรงเหมือนบ้านเรา ต้องใช้เวลานานหน่อยกว่ากระทะหรือหม้อจะร้อนได้ที่ ส่วนมีดก้อคงผ่านมือมาเยอะไม่ค่อยจะคมเอาซะเลย ต้องใช้แรงกดเยอะ แต่ก้อ OK ดีกว่าไม่มีอะไรให้เลย ส่วนพวกกาแฟ น้ำตาล ครีม บางที่มี บางที่ก้อไม่มี เตรียมไปจากบ้านเราดีที่สุดแบบ 3in1

แผนการเดินทางวันนี้ จากเมือง Greymouth ไปเมือง Franz Josef ระยะทางประมาณ 190 km. ใช้เวลา 3 hrs โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 6

 

เป็นที่น่าเสียดายมากที่ต้องรีบ Check-out ไม่มีโอกาสได้เที่ยวในเมือง Greymouth ถ้ามีเวลามากกว่านี้ อยากจะพักที่เมืองนี้อีกซักคืน เพราะที่พักมีบริการรถจักรยานไว้ขี่ชมเมือง และมีเรือคายักด้วย ด้านหลังที่พักเป็นคลอง แถมพี่พักก้อสวย เก๋ เท่ หรูอย่างมีคุณค่าในราคาไม่แพง

 

ขับรถมาซักเกือบ 30 นาที แวะเดินเล่นในเมือง HOKITIKA เป็นเมืองเล็ก ๆ ก่อนไปถึงเมือง Franz Josef เดิน shopping ซักพักแล้วเดินทางต่อ

มาถึงเมือง Franz Josef ประมาณ บ่าย ๆ Check-in Fox Glacier Helicopter ชมธารน้ำแข็ง Fox กับ Franz ราคา 240$NZ/p ใช้เวลา 40 นาที ประสบการณ์เสียวครั้งแรกในชิวิตกับการนั่ง Helicopter และ เหยียบบน Glacier  ตอนลงจาก ฮ. มีเจ้าหน้าที่ที่ขับฮ. มารับ อารมณ์ประมาณได้เหยียบดวงจันทร์ประมาณนั้น ถ้ามีพรมแดงปูให้ด้วย ใช่เลย ….

 

คืนนี้เรานอนกันที่ YHA - Franz Josef ราคา 79$NZ/r/n หลังจาก Check-in แล้ว shopping ที่ supermarket กันต่อ

 

เมืองนี้เล็กมาก เดินไม่ถึง 30 นาทีก้อรอบเมืองแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นร้านกิจกรรม adventure เกี่ยวกับธารน้ำแข็ง แนะนำว่าถ้าอยากประหยัดให้เลือกแบบเดินสำรวจธารน้ำแข็งแบบครึ่งวัน ราคา 90$NZ น่าจะเหมาะกับนักผจญภัยมากกว่า แถมได้ถ่ายรูปเยอะกว่าด้วย

 

รายการอาหารมื้อเย็นวันนี้

 

เริ่มชินกับการนอนเร็วขึ้น แต่กว่าจะทำโน้น-นี่-นั่น เสร็จก้อประมาณ 5 ทุ่มตามเวลา NZ ตื่น 7 โมงเช้าก้อ ok นอนวันละ 8 hrs.

*** ราคาห้องพักที่ลงไว้ เป็นเตียง 3.5 ฟุต 2 เตียง (Twin Room) ห้องน้ำ-ห้องครัว ใช้แบบรวมหมดต้องจองก่อนล่วงหน้าซัก 2 วัน กรณีต้องการจองล่วงหน้าแค่ 1 วันต้องโทรถาม เพราะไม่รับจองผ่าน Internet แต่ถ้าจะ walk-in มีความเสียงสูงมากว่าจะไม่ได้เพราะดูแล้ว แต่ละวันห้องพักเต็มหมด

** ช่วงที่พวกเราไป ถือว่าไม่ใช่ช่วง Season ของที่ NZ ถ้าเป็นช่วง High คือหน้าหนาวมีหิมะ ประมาณช่วงเดือน Jun-Aug แต่ถ้าไปช่วงนี้คงหนาวตายแน่ ๆ เลย

** ที่พักของ BBH ส่วนใหญ่จะเก็บเงินค่ามัดจำกุญแจ 20$NZ วันรุ่งขึ้นที่คืน Check-out ก้อได้คืนมา

 

---