Aut @ สะ-บาย-ดี หลวงพระบาง ประเทศลาว

Written by Mr.Aut.

Trip ประจำเดือนตุลาคม กับการเดินทางออกนอกประเทศครั้งที่ 3 สู่ สะ-บาย-ดี หลวงพระบาง ประเทศลาว 4 วัน 3 คืน
23-26 Oct 2008 เดินทางพร้อมกับกลุ่ม tripbystarman.com ค่าใช้จ่ายประมาณ 7500 บาท .......

ออกเดินทางจากกรุงเทพคืนวันที่ 22 เวลา 20.30น. กับเพื่อนร่วมทางเกือบ 40 ชิวิต ได้รู้จักเพื่อน ๆ อีกหลายคนเลย
แต่ดู ๆ ไปเหมือน trip สำหรับผู้สูงอายุยังงัยไม่รู้ ออกเดินทางสู่จังหวัดหนองคายด้วย รถโค้ช ถึงประมาณตีห้า ......

วันแรก : หนองคาย-
City Tour เวียงจันทน์-วังเวียง-ถ้ำจัง
รับอาหารเช้าที่ ร้านครัวทิพย์ อาทิเช่น ข้าวต้มปลา หมู ไข่กะทะ ข้าวจี่อันน้อย ๆ น่ารัก ๆ ใส่ไส้ต่าง ๆ พร้อมกาแฟ โอวัลติล
ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย ก่อนออกเดินทางข้ามประเทศ

มื้อแรกเป็นบุฟเฟ่ ตักไม่อั้น กินไม่ยั้ง พร้อมสำหรับการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต

กินเสร็จ เดินย่อย ดูวิวแม่น้ำโขง หน้าร้านอาหาร ซึ่งตรงข้ามก็เป็นประเทศลาวนั่นเอง

จัดแจงเปลี่ยนเป็นรถบัสของประเทศลาว ที่ลานกว้างหน้าสถานีรถไฟหนองคาย

จากนั้น รถลาว (สีส้ม) มารับพาไปชายแดนไทย-ลาว โดยข้ามสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว  สต๊าฟ ไกด์ลาวเก็บ passport
ของแต่ละคน เพื่อทำเรื่องข้ามประเทศ
ที่ลาว หน่วยเงินเป็น กีป 1 บาทประมาณ 249 กีป เลยแลกไป 500 บาท ก้อประมาณ 125500 บาท

รอ guide ทำเรื่องประมาณ 20 นาที ก้อลงมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศที่ด่านพรมแดน

เรียบร้อยแล้ว  มุ่งสู่ นครหลวงเวียงจันทร์ ทันที เริ่มเที่ยว City Tour นครเวียงจันทร์ ดังนี้ 
(1) วัดแม่ศรีเมือง เป็นวัดที่ประชาชนลาวชาวเวียงจันทน์ เคารพนับถือ ตามตำนานเล่าต่อ ๆ กันมา ขออะไร
มักสมหวังดังปรารถนา ยกเว้น ขอเรื่องความรัก

พานมัสการ (2) วัดพระแก้ว

ต่อด้วย (3) วัดศีระเกษ

แวะร้าน (4) ร้านเครื่องเงินแท้ ของประเทศลาว เสื้อลาว ผ้าสะไบ ราคาไม่แพง และเครื่องเงิน

รับประทานอาหารเที่ยง แล้วต่อกันที่ นมัสการ (5) พระธาตุหลวง เป็นพระธาตุสีเหลืองทองอร่าม

จากนั้น เดินทางสู่ เมืองวังเวียง เข้าสู่เส้นทางธรรมชาติถนนหนทางลาดยาง ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง ถึงตัวเมืองวังเวียง
พาเที่ยว (6) ถ้ำจัง เมืองท่ามกลางหุบเขาหินปูน อากาศดียามเย็นและยามเช้า เมฆหมอกล่องลอยหนาแน่นตามฤดูกาลจน
ได้ชื่อว่า เป็นกุ้ยหลินเมืองลาว

รับประทานอาหารเย็น  อิ่มท้องแล้ว ก็เที่ยววังเวียงยามค่ำคืนกัน

วันที่สอง หลวงพระบาง  น้ำตกตาดกวางสี  ตลาดนัดสินค้าพื้นเมือง (night market) เธควัฒนธรรม
ทานอาหารเช้าที่พูบาน ริมน้ำซอง (7) ชมทะเลหมอกยามเช้า ข้ามสะพานไม้ไผ่ เดินเล่น ไปเกาะกลางชมวิถีชีวิต
ยามเช้าของชาววังเวียง ได้เวลาขึ้นรถเดินทางกันต่อ ผ่านหมู่บ้านต่าง ๆ เป็นเส้นทาง ประวัติศาสตร์ โค้งเยอะมาก
คล้ายเส้นทางไปแม่ฮ่องสอน  แวะหมู่บ้านชาวเขาต่างๆ เช่น สี่แยกภูคูณ กิ่วกระจำ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

รับประทานอาหารเที่ยง ที่กิ่วกระจำ เป็นอาหารพื้นเมือง ฝีมือชาวเขา จะสั่งให้ทานง่าย ๆ เช่น ต้มจืด ผัดพัก ไข่เจียว
เมื่อ
ถึงเมืองหลวงพระบาง พาเที่ยว (8) น้ำตกตาดกวางสี เป็นน้ำตกที่สวยที่สุด สีเขียวมรกต

รับประทานอาหารเย็น

จากนั้นพาท่านเดินชมตลาดนัดสินค้าพื้นเมือง  (9) ถนนข้าวเหนียว จะขายของ พื้นเมือง จากชนเผ่าต่างๆ คล้ายถนนคนเดิน
ที่เชียงใหม่
เสื้อลาวลายต่าง ๆ เช่น สะบายดีหลวงพระบาง ขอบใจเด้ ฯลฯ กระเป๋าผ้า โคมไฟ ผ้าปูเตียง กางเกงเลย์ เท่ ๆ

วันที่สาม : ตักบาตรข้าวเหนียว วัดใหม่ พระราชวังเก่าเจ้าศรีสว่างวงศ์ พระธาตุพูสี บ้านผานม วัดแสน วัดเชียงทอง
ถ้ำติ่ง ซางไห้
 

วันนี้ต้องตื่นตั้งแต่สี่ครึ่ง อาบน้ำให้เรียบร้อย ไปจองพื้นพี่เพื่อ (10) ตักบาตรข้าวเหนียว พระสงฆ์สองร้อยกว่ารูป ตั้งแต่เช้าตรู่ 
ทีม Staff จัดเตรียมข้าวเหนียวร้อน ๆ ไว้ให้คนละหนึ่ง กระติ๊ปใหญ่ ๆ 100 บาทต่อกระติ๊ป ให้ทุกคนได้ใส่บาตรกัน 
หยิบข้าวเหนียวทีละนิดเท่านั้น จะได้ใส่ครบ จำนวนพระ เกือบ 300 กว่าองค์ -- เมื่อยนิ้วมาก ๆ ก้อข้าวเหนียวมันแข็งซะขนาดนั้น

ถ่ายรูปกับ Guide ลาว ที่นี่ผู้หญิง ไม่ว่าจะแต่งแล้วหรือยังไม่แต่ง เรียกนางเหมือนกันหมด ผู้ชายเรียก อ้าย คนแก่เรียก ผู้เฒ่า

พระมาแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเณรที่มาบวชเรียน

เสร็จแล้วทานอาหารเช้า

เช้านี้เริ่ม City Tour เมืองหลวงพระบาง เดินไปพร้อมกัน ๆ กับไกด์ลาว เริ่มเที่ยวดังนี้ (11) ตลาดเช้า

ตามด้วย (12) วัดใหม่สุวันนะพูมาราม วัดใหญ่ที่สุดของหลวงพระบาง เคยเป็นที่ประทับ ของพระสังฆราชลาว
และเคยประดิษฐานพระบางมาก่อน

ถ่ายรูปหมู่กับซักรูป

เดินขึ้นชม (13) พระธาตุจอมพูสี หรือ ธาตุพูสี เปรียบเสมือนหลักเมืองของหลวงพระบาง เป็นเนินเขาใจกลางเมืองหลวงพระบาง
มีบันได ประมาณ
328 ขั้น ระหว่างทางเดินขึ้น พระธาตุพูสี จะมีต้นไม้จำปาลาว หรือดอกลั่นทม ขึ้นสองข้างทางเดิน ซึ่งเป็น
ดอกไม้ประจำชาติ ลาว บานสะพรั่ง มีแม่น้ำโขง และแม่น้ำคานโอบรอบ 

เข้าชม (14) พระราชวังเก่าเจ้าศรีสว่างวงศ์ สร้างเมื่อ 101 ปีมาแล้ว รูปแบบสถาปัตยกรรม เป็นศิลปผสมผสาน ฝรั่งเศสและลาว


จากนั้นพาท่านเปลี่ยนอิริยาบถพาไป shopping ที่ (14) บ้านผานม ศูนย์รวมหมู่บ้านผลิตภัณฑ์ผ้าทอ เลี้ยงตัวไหม สาธิตวิธีการทอมือ
หรือเรียกง่าย ๆ ก็
OTOP เมืองไทย ชมสถาปัตยกรรมอื่น ๆ รอบเมือง

สุดท้ายที่ (15) วัดเชียงทองวัดสวยงามที่สุด ที่พลาดไม่ได้ ชมพระม่าน ในโบสถ์เล็ก (จะมีช่องเล็ก ๆ ให้ทุกคนหลี่ตาข้างหนึ่งจึงจะเห็น)
พระม่าน หนึ่งปีจะอันเชิญแห่รอบเมืองหลวงพระบาง ในเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชาอย่างใกล้ชิด

บริการอาหารเที่ยง บนเรือ เป็นอาหารบุฟเฟ่ร์ ล่องไปตามแม่น้ำโขง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงบนเรือเพื่อไปถ้ำต่อ มีกิจกรรมให้
เล่นจาก Team งาน

ไปเที่ยว (16) ถ้ำติ่ง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ชมภาพเขียนสีโบราณบนผนัง แวะเที่ยว บ้านซางไห้ เป็นหมู่บ้านทำเหล้า

เพื่อน ๆ ผู้ใจดีเอาขนมไปฝากเด็ก ๆ พื้นเมือง แย่งขนมกันใหญ่

แม่น้ำโขง แม่น้ำมีน้ำตาล

รับประทานอาหารเย็น มื้อนี้เป็นร้านอาหารบ้านทรงลาวแท้ๆ พร้อมกับทำ (17) พิธีบายศรีสู่ขวัญ จากผู้เฒ่าผู้แก่

อย่าแย่งกันครบ ได้ฝูกข้อมือกันครบทุกคน

มีน้อง ๆ น่ารัก มีเต้นรำให้ดู

จังหวะท่าเต้น จะคล้ายลีลาศ บ้านเรา ท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ คือ บัดสะลบ

วันที่สี่  กลับนครเวียงจันทน์ หนองคาย กทม
ตื่นตั้งแต่ตีสามครึ่ง วันนี้เดินทางทั้งวันประมาณ 7 ชั่วโมง เมื่อยก้นมากกกกกกกก ... ออกจากหลวงพระบางแต่เช้าตรู่
แวะทานอาหารเช้าพื้นเมือง ที่กิ่วกระจำ
ข้าวต้ม กาแฟ ฯลฯ หลับไปซัก 4 ชั่วโมง กินข้าวเที่ยงต่อที่เมืองวังเวียง แล้วเดินทางต่อ
ไปเวียงจันทร์ แวะ (18) ประตูชัย สร้างเลียนแบบประตูชัย ของฝรั่งเศสแต่เป็นศิลปะลาวหรือบางคนจะเรียกว่า รันเวย์แนวตั้ง

ถึงนครหลวงเวียงจันทร์รถเข้าทำพิธีการข้ามประเทศไทย ระหว่างทำพิธีการจะให้ทุกคน (19) shopping duty free กัน
กลับถึงดอนเมืองก้อเช้า ๆ อาบน้ำทำงานต่อ เหนื่อยโครต ............

{moscomment}


blog comments powered by Disqus

Crazypanda.net